⭐ สมาคมการค้าการจัดการโลจิสติกส์อุตสาหกรรมเอเชียแปซิฟิก
⭐ ทะเบียนเลขที่​ 0129562000035
⭐ สำนักงานใหญ่ : 98/20 หมู่ที่ 5 ตำบลบางคูรัด อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี 11110
⛳ ศูนย์ประสานงาน(กลาง): 3196 ม.1 ต.สำโรงเหนือ อ.เมืองสมุทรปราการ 10270, โทร.+6661-552 9625
062-785-9236 [email protected] 0627859236
หัวข้อ
การชำระเงิน
บุคลากรสำคัญของสมาคม
สถาบันการศึกษาที่เข้าร่วมโครงการ
หน่วยงาน องค์การ นิติบุคคลที่เข้าร่วมโครงการ/ได้ทำความร่วมมือ
Facebook
>> โครงการความร่วมมือทางวิชาการเพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ (ภาค "MAGNATE CEO" PROJECT)
ชื่อโครงการ  : โครงการความร่วมมือทางวิชาการเพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ (โครงการที่1ชื่อ MAGNATE CEO PROJECT)
ผู้จัดทำโครงการ : สมาคมการค้าการจัดการโลจิสติกส์อุตสาหกรรมเอเชียแปซิฟิก(APLITA) (โดยมติที่ประชุมคณะกรรมการสมาคมฯ ครั้งที่01/07/2563)
ลักษณะโครงการ : เป็นโครงการความร่วมมือทางวิชาการเพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ในระดับ ปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก   
ที่ตั้งสำนักงานโครงการ : เลขที่ 3196 หมู่ 1 ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ 10270 ,E-mail : [email protected] 
ตราสัญลักษณ์ของโครงการ : ใช้ตราสัญลักษณ์ดังภาพ ต่อไปนี้ 

 

 

วัตถุที่ประสงค์ของโครงการ

  1. เพื่อให้สมาชิกที่สนใจในกิจการงานต่างๆของสมาคมฯสามารถเข้าร่วมงานและเข้าร่วมศึกษาหาความรู้กับโครงการของสมาคมฯได้
  2. เพื่อให้สมาชิกที่ได้เข้ามาร่วมงานและศึกษากับโครงการฯได้มีโอกาสศึกษาหาความรู้ใหม่ๆเพิ่มเติมความรู้เดิมและแลกเปลี่ยนทัศนคติ ความรู้และประสบการณ์ ซึ่งกันและกัน อันจะนำไปสู่การร่วมมือกันในด้านต่างๆและพัฒนาต่อยอดองค์ความรู้ของตนให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะได้นำองค์ความรู้เหล่านั้นไปเป็นประโยชน์ในการสร้างความเจริญก้าวหน้าให้แก่ธุรกิจการงานต่างๆของตน ซึ่งจะช่วยส่งเสริมสนับสนุนให้เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศชาติมีความเจริญรุ่งเรืองมั่งคั่งและก้าวหน้าต่อไป 
  3. เพื่อให้สมาชิกซึ่งมีรากฐานทางเศรษฐกิจที่ดีจากทั่วทุกมุมโลกมุ่งเดินทางมาสู่จุดหมายปลายทางเดียวกันคือประเทศไทยอันจะเป็นการช่วยส่งเสริมสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางความเจริญก้าวหน้าทางด้านการศึกษา เศรษฐกิจ การเงิน การค้า การลงทุน การอุตสาหกรรม โลจิสติกส์และอื่นๆ  ซึ่งจะเป็นโอกาสที่ดีในการที่จะได้เผยแพร่และส่งออกวัฒนธรรมของชาติสู่สายตาชาวโลกโดยผ่านทางบรรดาสมาชิกที่เข้ามาร่วมกับโครงการของสมาคมฯนี้ด้วย 
  4. เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้สมาชิกที่สำเร็จการศึกษาจากโครงการฯเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถในการวางแผนงาน ปฏิบัติงานและบริหารงานต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผล ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาบ้านเมืองต่อไป
  5. เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้เกิดความสัมพันธ์อันดีต่อกันระหว่างสมาชิกและผู้เข้าร่วมโครงการและช่วยสนับสนุนส่งเสริมให้เกิดความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศ และสนับสนุนให้ความร่วมมือกันทั้งทางด้านการค้าการเงินการลงทุน การศึกษา ค้นคว้าวิจัย และการพัฒนาในด้านต่างๆมีความชัดเจนเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะยังผลให้เกิดประโยชน์ต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมในอนาคตต่อไป

โครงสร้างการบริหารโครงการ

  1. สมาคมการค้าการจัดการโลจิสติกส์อุตสาหกรรมเอเชียแปซิฟิก ผู้จัดทำโครงการ เป็นผู้กำกับดูแลให้การดำเนินงานของโครงการฯเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของสมาคมฯ
  2. สมาคมฯ แต่งตั้ง คณะกรรมการขึ้นมาคณะหนึ่งทำหน้าที่บริหารโครงการฯ
    โดยคณะกรรมการบริหารโครงการฯประกอบด้วย กรรมการ อย่างน้อย 5คนแต่ไม่เกิน 9คน รวมกันเป็นคณะกรรมการ ซึ่งประกอบด้วย กรรมการตำแหน่งต่างๆดังต่อไปนี้
    • ประธานกรรมการ
      นายกสมาคม เป็น ”ประธานกรรมการ”และเป็น “ผู้อำนวยการโครงการฯ"
    • เลขาธิการ
      เลขาธิการสมาคม  เป็น”เลขาธิการโครงการ”
    • เหรัญญิก
      เหรัญญิกสมาคม   เป็น “เหรัญญิกโครงการ”
    • ประชาสัมพันธ์
      ผู้แทนสมาคมฯประจำ สาธารณรัฐประชาชนจีน  เป็น”ประชาสัมพันธ์”
    • ผู้ทรงคุณวุฒิทางด้านการบริหารการศึกษา
      ผู้แทนสมาคมฯฝ่ายกิจการระหว่างประเทศ  เป็น”ผู้ทรงคุณวุฒิทางด้านการบริหารการศึกษา”
    • กรรมการอื่นๆไม่เกิน4คน (แต่งตั้งตามความเหมาะสม เช่น ผู้ทรงคุณวุฒิหรือตัวแทนจากสถาบันการศึกษาที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งจะมีหรือไม่ก็ได้)
  3. การบริหารโครงการฯ  ให้คณะกรรมการบริหารโครงการฯดำเนินการบริหารให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการฯและภายใต้ข้อบังคับของสมาคมฯ และให้มีบัญชีเงินฝากและระบบการเงินการบัญชีเป็นของตนเอง
  4. มติของคณะกรรมการบริหารโครงการฯให้ถือเอาเสียงข้างมากเป็นมติ การลงนามผูกพันโครงการ ให้นายกสมาคมฯในฐานะประธานกรรมการโครงการ ลงลายมือชื่อและประทับตราสำคัญของโครงการ
  5. ให้คณะกรรมการบริหารโครงการฯดำรงตำแหน่งตั้งแต่วันที่ได้รับการแต่งตั้งจนกว่าโครงการฯจะสิ้นสุดลง ถ้าในระหว่างการดำรงตำแหน่งมีกรรมการเหลือไม่ถึง 5 คนไม่ว่าจะด้วยเหตุใดๆให้สมาคมฯแต่งตั้งกรรมการแทนตำแหน่งที่ขาดหายไปให้ครบอย่างน้อย5คน ภายในระยะเวลา30วัน
  6. เปิดโอกาสให้บุคคล นิติบุคคล หน่วยงาน องค์การต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชน ทั้งในและต่างประเทศ ที่สนใจ เข้าร่วมโครงการฯ (โดยถือว่า ผู้เข้าร่วมโครงการเป็น"สมาชิกอุปถัมภ์"ของสมาคมฯ)

การดำเนินงานโครงการความร่วมทางวิชาการเพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์

รูปแบบการดำเนินโครงการฯ เป็นไปในลักษณะของความร่วมมือกันในทางวิชาการ โดยอาศัยศักยภาพของผู้ที่เข้าลงนามร่วมมือกันมาผนวกรวมกันในเชิงบูรณาการ ซึ่งการดำเนินงานในลักษณะดังกล่าวนี้ จะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ทุกฝ่ายที่ร่วมมือกัน และเป็นการเสริมรากฐานทางเศรษฐกิจและสังคมของชาติให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ดังนี้ 

  1. บรรดาสมาชิกที่จะถูกคัดสรรเข้าร่วมเป็นนักศึกษาของโครงการฯล้วนแล้วแต่เป็นผู้มีฐานะทางเศรษฐกิจที่ดีซึ่งจะเป็นกลุ่มนักลงทุนที่มีคุณภาพในอนาคต เป็นการได้นักลงทุนที่จะนำรายได้เข้าประเทศได้ไม่ต้องสิ้นเปลืองเงินทุนและบุคลากรในการโฆษณาและเดินทางไปติดต่อเชิญชวนนักลงทุนแต่อย่างใด
  2. จะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับสถาบันการศึกษาที่เข้าร่วมโครงการฯ ที่จะสามารถขยายฐานนักศึกษาออกไปโดยไม่ต้องลงทุนเพิ่ม ซึ่งจะช่วยให้สถาบันฯมีโอกาสในการพัฒนาคุณภาพทางด้านการเรียนการสอน ตลอดจนการศึกษาค้นคว้าวิจัยในด้านต่างๆให้ดียิ่งขึ้น และจะเป็นการส่งเสริมสนับสนุนให้ประเทศไทยก้าวไปสู่การเป็นศูนย์กลางทางการศึกษาในอนาคตต่อไป
  3. สำหรับภาคเอกชนที่เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการฯก็จะได้ใช้กำลังความสามารถของตนอย่างเต็มกำลังความสามารถ ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมสนับสนุนให้ภาคเอกชนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งขององคาพยพทางสังคมมีความเข้มแข็ง อันจะช่วยเสริมสร้างฐานรากของสังคมให้มีความมั่นคงมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยลดภาระของภาครัฐลงไปได้บ้างทางหนึ่ง

ลักษณะของความร่วมมือ จะเน้นการให้แต่ละฝ่ายรับผิดชอบดำเนินงานภายในขอบเขตงานที่ปกติตนเองได้ดำเนินการอยู่ก่อนแล้ว ภายใต้กรอบอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายที่ตนมี ซึ่งจะทำให้การดำเนินงานของโครงการฯไม่มีผลกระทบกระเทือนต่อการทำงานในวิถีปกติของแต่ละฝ่าย แต่จะช่วยเกื้อหนุนและส่งเสริมให้งานปกติของแต่ละฝ่ายมีความก้าวหน้า รวมถึงอาจเป็นการต่อยอดให้กิจการงานปกติเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นต่อไป

บทส่งท้ายโครงการฯ

สมาคมฯมีความคาดหวังว่าโครงการฯนี้จะสามารถสร้างบุคลากรที่มีคุณภาพและมีศักยภาพสูงป้อนเข้าสูระบบเศรษฐกิจได้อย่างต่อเนื่องและคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่า บุคลากรดังกล่าวนั้นจะเป็นกำลังสำคัญในการประสานความร่วมมือกันของทุกภาคส่วนทั้งในทางสังคมและเศรษฐกิจ ทั้งในประเทศและนอกประเทศ อันจะเป็นการสร้างระบบเศรษฐกิจที่มีความมั่นคง เข้มแข็งให้เกิดขึ้น  ซึ่งจะเอื้อประโยชน์แก่ประชาชนโดยทั่วไป และจะก่อ ให้เกิดความอยู่เย็นเป็นสุข และสันติสุข อย่างยั่งยืนต่อไป

ท้ายที่สุดนี้สมาคมฯหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการฯนี้จะได้รับการสนับสนุนจากทุกฝ่ายและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นโครงการฯที่ได้มีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์สิ่งที่ดีงามให้แก่สังคมสืบต่อไป

ในนามของสมาคมฯผู้จัดทำโครงการฯขอแสดงความขอบคุณ มา ณ โอกาส นี้

  ขอแสดงความนับถือ



( น.ส.อธิพิชญ์   กิจพรจีราภัคค์ )
นายกสมาคมฯ