>> โครงการความร่วมมือทางวิชาการเพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ (โครงการที่2"Leader CEO")

ชื่อโครงการ	: LEADER CEO
ผู้จัดทำโครงการ	: สมาคมการค้าการจัดการโลจิสติกส์อุตสาหกรรมเอเชียแปซิฟิก
ลักษณะโครงการ	: เป็นโครงการที่ ดำเนินการฝึกอบรมระยะสั้น เพื่อเพิ่มเติมความรู้ให้แก่ผู้ประกอบการและผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐและภาคเอกชน โดยแบ่งการจัดฝึกอบรมออกเป็นรุ่นๆ แต่ละรุ่นจะใช้เวลาฝึกอบรมไม่เกิน 3เดือน
ที่ตั้งสำนักงานโครงการ	: 3196 ม.1 ต.สำโรงเหนือ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ 10270
ตราสัญลักษณ์ของโครงการ	: ใช้ตราสัญลักษณ์ดังภาพ ต่อไปนี้

วัตถุที่ประสงค์ของโครงการ

1. เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้สมาชิกต่างประเทศที่ต้องมาทำธุรกิจและ/หรือกิจการงานต่างๆในประเทศไทยได้เข้าใจ ขั้นตอน กระบวนการ และ หลักเกณฑ์ ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจนั้นๆเพื่อจะได้ดำเนินการได้อย่างถูกต้อง
2. เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้สมาชิกที่ต้องการดำเนินธุรกิจทางด้านการเข้าและส่งออกสินค้าได้มีความเข้าใจในหลักเกณฑ์ กระบวนการและวิธีการต่างๆที่เกี่ยวข้องได้อย่างถูกต้อง
3. เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้สมาชิกมีความสะดวกสบาย ปลอดภัย และรวดเร็วในการทำธุรกิจ และธุรกรรมต่างๆในประเทศไทย (ป้องกันการฉ้อโกง ต้มตุ๋น รีดไถ นักธุรกิจต่างชาติ)
4. เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้นักธุรกิจต่างชาติ ให้ความสนใจมาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น
5. เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางการค้าและการขนส่งของโลก
6. เพื่อเพิ่มพูนองค์ความรู้ในการดำเนินธุรกิจในด้านต่างๆให้แก่สมาชิก
7. เพื่อให้บรรลุผลตามเจตนารมณ์ของโครงการความร่วมมือทางวิชาการฯ
8. เพื่อให้ประสบความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ของสมาคมฯ
9. เพื่อส่งเสริมให้ประเทศมีความเจริญก้าวหน้าในด้านต่างๆมากขึ้น อันจะนำมาซึ่งความสงบสุขให้แก่ประเทศชาติและประชาชน สืบต่อไป

โครงสร้างการบริหารโครงการ

1. สมาคมการค้าการจัดการโลจิสติกส์อุตสาหกรรมเอเชียแปซิฟิก เป็น เจ้าของโครงการ มีหน้าที่คอย กำกับ ดูแล ช่วยเหลือ ให้การสนับสนุน การดำเนินกิจกรรมร่วมกันของสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อให้การดำเนินงานบรรลุผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ของโครงการและเป็นไปตามข้อบังคับของสมาคมฯ
2. สมาคมฯแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารโครงการฯขึ้นมาคณะหนึ่งทำหน้าที่บริหารโครงการฯ ซึ่งประกอบด้วยกรรมการอย่างน้อย 3 คน แต่ไม่เกิน 5 คน รวมกันเป็นคณะกรรมการ ดังรายละเอียด ตำแหน่งต่างๆ ต่อไปนี้
   
   • ประธานคณะกรรมการบริหารโครงการ
     นายกสมาคมฯ เป็น ประธานคณะกรรมการบริหารโครงการ และเป็น ผู้อำนวยการโครงการ โดย ตำแหน่ง
   • เลขาธิการโครงการ
     นายทะเบียนสมาคมฯ เป็น เลขาธิการ โครงการ
   • เหรัญญิกโครงการ
     เหรัญญิกสมาคมฯ เป็น เหรัญญิกโครงการ
   • ประชาสัมพันธ์
     อาจแต่งตั้งคัดเลือกจากสมาชิกผู้ที่มีความเหมาะ
   • กรรมการอื่น
     อาจแต่งตั้งเพื่อช่วยงานเฉพาะกรณี และเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ
     
3. คณะกรรมการบริหารโครงการ ทำหน้าที่บริหารโครงการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการภายใต้ข้อบังคับของสมาคมฯ โดยสามารถเสนอขออนุมัติแต่งตั้งบุคลากรเพื่อช่วยช่วยดำเนินงานในโครงการ ตลอดจนนำเสนอร่างระเบียบปฏิบัติของสมาชิกต่อสมาคมฯ เพื่อให้คณะกรรมการหรือที่ประชุมใหญ่ของสมาคมฯพิจารณา ลงมติอนุมัติ
4. มติของคณะกรรมการบริหารโครงการให้ถือเอาเสียงข้างมากเป็นมติ  และให้นายกสมาคมฯเพียงคนเดียวในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารโครงการและผู้อำนวยการโครงการ เป็นตัวแทนโครงการและเป็นผู้มีอำนาจลงนามผูกพันในกิจการงานอันเกี่ยวข้องกับบุคคลภายนอก
5. ให้คณะกรรมการบริหารโครงการ ดำรงตำแหน่งตั้งแต่วันเริ่มต้นโครงการเป็นต้นไปจนกว่าโครงการจะเสร็จสิ้นลง
6. ผู้ต้องการเข้าร่วมฝึกอบรม กระทำได้ โดยสมัครเข้าเป็นสมาชิกของสมาคมฯและแสดงความจำนงขอเข้าร่วมโครงการฯ
7. เปิดโอกาส ให้ทุกภาคส่วน เข้าร่วมโครงการฯ โดยถือว่าเป็นสมาชิกประเภท"สมาชิกอุปถัมภ์"ของสมาคมฯ เช่น เข้ามาเป็นสมาชิกประเภทอุปถัมภ์ ด้วยการสนับสนุนข้อมูล องค์ความรู้ หรือ เป็นหน่วยงานหรือสถาบันที่ช่วยเหลือในการฝึกอบรม เป็นต้น

ลักษณะการดำเนินโครงการ

1. เป็นโครงการที่ จัดทำขึ้นเพื่อ ดำเนินการฝึกอบรม ให้ความรู้แก่สมาชิกที่เป็นผู้บริหารระดับสูงตามความประสงค์ของสมาชิกเอง โดยสมาคมฯทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพในการติดต่อประสานงาน และคอยอำนวยความสะดวกให้
2. เป็นลักษณะการให้ความรู้ในการทำงานจริง ให้แก่ สมาชิก โดยเฉพาะ ในการดำเนินการ ด้าน นำเข้า-ส่งออก การลงทุนในด้านต่างๆในประเทศไทย ซึ่ง จะมี หน่วยงาน กระบวนการ และขั้นตอนต่างๆมากมาย ประกอบกับ จะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกรอบของกฎหมาย และระเบียบ ข้อบังคับต่างๆที่เกี่ยวข้อง ให้ถูกต้อง ครบถ้วน
3. เป็นการฝึกอบรม ให้สมาชิก ได้เรียนรู้ และเข้าใจขั้นตอนการทำงาน เพื่อให้ สามารถปฏิบัติงานได้จริง และสามารถนำองค์ความรู้ ไปถ่ายทอดให้แก่บุคลากรในองค์กรของตนได้
4. เป็นการรวบรวมเอาองค์ความรู้ในด้านต่างๆมาถ่ายทอดให้แก่สมาชิกที่เข้ารับการฝึกอบรมให้แล้วเสร็จภายในกำหนดเวลาไม่เกิน 3 เดือน
5. สมาคมฯอาจจะขอความร่วมมือและขอความอนุเคราะห์ ข้อมูลความรู้ และบุคลากรในการให้ความรู้ จากหน่วยงานหรือองค์การต่างๆที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งอาจต้องขอ ความอนุเคราะห์ ในการขอใช้สถานที่ ของหน่วยงาน หรือองค์การต่างๆเหล่านั้น ในการฝึกอบรมบางโอกาส และอาจขอความอนุเคราะห์ ส่วนงานที่เกี่ยวข้องในการนำสมาชิกที่เข้ารับการฝึกอบรม เข้าไปศึกษาดูงาน

ด้วยอุดมการณ์ ที่ชัดเจน และด้วยความ มุ่งมั่น ตั้งใจ ที่จะมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์สิ่งที่งามเพื่อสังคม สมาคมฯจึงได้จัดทำโครงการนี้ขึ้น และคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่า โครงการนี้จะสามารถ ผลิต บุคลากรระดับผู้บริหาร ที่มีคุณภาพ ป้อนสู่ระบบเศรษฐกิจและสังคมทั้งภายในและภายนอกประเทศได้มากพอสมควรและอย่างต่อเนื่อง และมีคาดหวังว่าบุคลากรระดับผู้บริหารเหล่านี้จะสามารถสร้างประโยชน์ให้กับประเทศชาติได้ไม่น้อย และจะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาบ้านเมืองต่อไป และที่สำคัญผู้ที่มาทำการฝึกอบรมเหล่านี้ ก็สามารถที่จะเป็นนักลงทุนที่ดีให้กับประเทศไทยได้ หรืออาจจะเป็นผู้ประสานดึงนักลงทุนให้มาลงทุนในประเทศไทยได้ทางหนึ่ง โดยที่รัฐไม่ต้องสิ้นเปลืองงบประมาณเพื่อไปแสวงหานักลงทุนกลุ่มดังกล่าว และที่แน่นอนก็คือ ประเทศไทยจะสามารถส่งออกวัฒนธรรมสู่ต่างชาติโดยที่เราไม่จำเป็นต้องเดินทางไปเผยแพร่วัฒนธรรมแต่อย่างใด และการดำเนินโครงการดังกล่าวนี้ยังจะช่วยส่งเสริมสนับสนุนให้ประเทศไทยก้าวไปสู่การเป็นศูนย์กลางทางการค้า การศึกษา การคมนาคมขนส่ง และด้านอื่นๆ ซึ่งจะเป็นจุดหมายปลายทางของคนทั่วโลกอันจะทำให้สามารถเชื่อมโยงเอาภาคส่วนต่างๆมาร้อยเรียงกันอย่างเป็นโครงข่ายขนาดใหญ่ที่จะสามารถขับเคลื่อนกันไปอย่างเป็นระบบเดียวกันได้ ซึ่งจะะสามารถสร้างความเจริญรุ่งเรืองมั่งคั่งอย่างยั่งยืนให้แก่ประเทศชาติและมนุษยชาติต่อไป

ท้ายที่สุดนี้ สมาคมฯหวังเป็นอย่างยิ่งว่า โครงการนี้ จะได้รับการสนับสนุนจากทุกฝ่าย และสมาคมฯขอรับรองว่า จะมุ่งมั่น ทำงานรับใช้สังคม ให้เต็มกำลังความสามารถ ภายใต้ข้อบังคับของสมาคมฯสืบต่อไป

ในนามของ สมาคมฯผู้จัดทำโครงการฯ ขอ ขอบคุณ มา ณ โอกาสนี้ ด้วย

ขอแสดงความนับถือ ( น.ส.อธิพิชญ์   กิจพรจีราภัคค์ ) นายกสมาคมฯ